องค์หนึ่งในสยาม

พระในตำนาน “พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระยาสารท-ขนมตุ๊บตั๊บ”
(องค์หนึ่งในสยาม) ราคา 100 ล้านบาท ของ (แมน-สี่มุมเมือง)

พ.อ.ผจญ กิตติประวัติ หรือ อ.ตรียัมปวาย ผู้ขนานนาม พระเครื่องชุดเบญจภาคี พิมพ์หนังสือ ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม 1 เรื่องพระสมเด็จ เมื่อ พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นต้นตำหรับแห่งหนังสือพระสมเด็จฯ หน้าที่ 209 ระบุว่า

เมื่อกล่าวถึงคุณวิเศษแห่งผงวิเศษ 5 ประการ และความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระคาถาชินบัญชรสูตรที่ใช้ปลุกเสกแล้วย่อมพิจารณาได้ว่า พระสมเด็จฯ ทรงคุณวิเศษในด้านต่างๆ ทุกประการ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ คงกระพัน ชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด เสน่ห์ เมตตามหานิยม ป้องกันภัยภูตผีปีศาจและการกระทำทางคุณไสย์ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันอัคคีภัย และสามารถใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ บำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกประการ รวมทั้งการคลอดบุตรด้วย ฯลฯ

ในหนังสือปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม 1 เรื่อง พระสมเด็จ อ.ตรียัมปวาย บอกว่า เนื้อพระสมเด็จแบ่งได้เป็น 6 ประเภท ใน 3 หมวด ดังนี้
1. หมวดเนื้อหนึกนุ่ม ได้แก่ เนื้อเกสรดอกไม้ และเนื้อกระแจะจันทน์
2. หมวดเนื้อผสม ได้แก่ เนื้อปูนนุ่ม และเนื้อกระยาสารท
3. หมวดเนื้อหน้าแกร่ง ได้แก่ เนื้อขนมตุ๊บตั๊บ และเนื้อปูนแกร่ง

สำหรับพระองค์นี้ เป็นพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระยาสารท-ขนมตุ๊บตั๊บ ของแมน สี่มุมเมือง หรือนายไพวัณย์ ศรีนุกูล อาชีพนักวิทยาศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยฯแห่งหนึ่ง ได้สนใจศึกษาและสะสมเรื่องพระเครื่องมาหลายปี และรับนั่งเป็นกรรมการตรวจสอบพระสมเด็จฯ ตามงานประกวดพระเครื่องต่างๆ ตามที่ได้รับเชิญไป เป็นงานอดิเรกด้วย (ณ ปัจจุบันยังเป็นสมาชิกและกรรมการตัดสินพระสมเด็จฯ ให้กับสมาคมส่องพระแท้เมืองสยาม) โดยมี อ.นุ พระแท้เมืองสยาม เป็นนายกสมาคมฯ

สำหรับพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระยาสารทขนมตุ๊บตั๊บ จัดว่าเป็นพระที่หาชมยากมาก ยิ่งสวยๆ ด้วยแล้ว ณ ปัจจุบันนี้ นับองค์ได้เลย พระสมเด็จองค์นี้พิมพ์ทรงด้านหน้า จัดว่าเป็นพระที่สวยมาก หายาก เนื้อหามวลสารดำแดงขาว ครบ รอยยุบ รอยย่น ที่มองเห็นโดยรวม มีความเป็นธรรมชาติ ตามกาลเวลา แบบที่หลายๆ คนบอกว่า แท้ตาเปล่า ก็ไม่ผิด ยิ่งได้ส่องด้วยกล้องกำลังขยาย 1600 เท่า แล้วยิ่งเห็นรายละเอียดที่เกิดขึ้นในองค์พระ ยากที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ หรือที่หลายท่านกล่าวว่า เกินคำบรรยาย, ส่วนด้านหลังพระองค์นี้จะเป็นแบบหลังเรียบ มองโดยรวมก็ดูเรียบๆ ไปทั่ว แต่ถ้าส่องผ่านกล้องขยายแล้ว จะมีร่องรอยยุบรอยย่นเล็กๆ ทั่วองค์พระ ซึ่งทำให้พระองค์นี้ยิ่งดูสวยสง่าน่าส่องน่าค้นหายิ่งนัก เพราะด้านหน้ามีพิมพ์ทรงที่สวยงามมีความเป็นธรรมชาติของมวลสารที่ดูดีดูง่าย แถมด้านหลังเรียบ จึงเข้าตามตำราครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนมา ส่วนขอบข้างของพระองค์นี้ จะโดนฝนๆ ขอบเพื่อให้ใส่กรอบพระนำมาห้อยใช้ ซึ่งคนสมัยเก่าก่อนนิยมห้อยพระแบบนี้ หวังพึ่งพุทธคุณท่าน อยู่ในกรอบเกรงว่าท่านจะออกมาช่วยไม่ได้ไม่ทันประมาณนั้น

ผมขอเล่าที่มาที่ไปของพระองค์ในตำนานของผมองค์นี้ว่าได้มาอย่างไร เริ่มแรกทีเดียวเพื่อนผมไปได้พระมาจากคุณตาแก่ๆ คนหนึ่ง ตอนนั้นแกก็อายุราวสัก 70 ปีกว่า เพื่อนบอกว่าคุณตา แกเลี่ยมจับกรอบเงินเก่าๆ แบบเปิดหน้าเปิดหลัง และห้อยใช้แบบนั้นมา เพื่อนจึงขอเช่าต่อมา ราคาเท่าไรผมไม่ทราบ ผมไปพบพระองค์นี้จากเพื่อนแล้วเกิดชอบ ผมก็เลยหาของแลกกันกับเพื่อน (ผมได้พระองค์นี้มา ราวๆ ปี พ.ศ.2540) ได้พระมาผมก็แกะกรอบเงินที่จับขอบไว้ออก นำมาใส่กรอบใหม่กันพระแตกหักเสียหาย พระองค์นี้ผมก็บูชาติดตัวมาตลอดตั้งแต่ได้มา พุทธคุณดีมากเมตตาสุดๆ ครบเครื่อง

ตั้งแต่ผมศึกษาสะสมพระสมเด็จฯมา 20 กว่าปี ก็ยังไม่เคยพบเจอองค์ที่สองนะ เนื้อและพิมพ์แบบองค์นี้ เนื่องจากเป็นพระเนื้อในตำนาน หายากมาก ผมจึงตั้งฉายาว่า (องค์หนึ่งในสยาม) ตั้งราคาขายไว้ที่ 100 ล้านบาท สนใจก็ติดต่อชมองค์จริงได้ที่ผม เบอร์โทร 088-969-2614 (แมน สี่มุมเมือง)